แอตเลติโก้ มาดริด

หลังเกม แอตเลติโก้ มาดริด บุกชนะ เอลเช่ 2-0 ยึดท็อปทรี

“โคลโชเนโรส” แอตเลติโก้ มาดริด ทีมอันดับ 4 ลงสนามในฟุตบอล ลาลีก้า 2021/22 เกมที่ 36 พวกเขาบุกไปที่สนาม มาร์ติเนซ บาเลโร่ สตาดิโอ รังเหย้าของ เอลเช่ ทีมอันดับ 15 ที่ต้อนรับด้วยแฟนบอล 21,266 คน

เกมผ่าน 28 นาที “โคลโชเนโรส” ขยับออกนำ 1-0 จากการยิงของ มาเธอุส คุนญ่า และขยับหนีเป็น 2-0 จากการยิงของ โรดรีโก้ เดอ ปอล ในนาที่ 60 เวลาที่เหลือ เจ้าบ้านทำได้ดีขึ้น ข่าวบอลอังกฤษ มีโอกาสได้ประตูตีตื้น แต่สุดท้ายไม่มีสกอร์ จบเกม 90 นาที แอตเลติโก้ มาดริด เข้าวิน 2-0 เก็บสามคะแนนเต็ม พร้อมขึ้นยึดอันดับที่ 3

แอตเลติโก้ มาดริด

แอตเลติโก้ มาดริด ยึดท็อปทรี ยังไม่การันตีตั๋ว UCL

หลังผ่านเกมที่ 36 แอตเลติโก้ มาดริดเก็บเพิ่มเป็น 67 คะแนน อยู่อันดับ 3 นำหน้า เซบีญ่า และ เรอัล เบติส 1 และ 5 คะแนน ตามลำดับ แต่พวกเขายังไม่การันตีว่าจะได้โควต้า UCL อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องการอีกแค่แต้มเดียว จาก 2 เกมที่เหลือ ก็จะยึดโควต้า UCL ได้ในทันที โดยโปรแกรมเกมที่ 37 ลูกทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มีคิวเปิดบ้านรับมือ เซบีญ่า ในวันที่ 15 พฤษภาคม

ทางฝั่ง เอลเช่ หลังผ่าน 36 นัด พวกเขามี 39 คะแนน อยู่อันดับ 15 ห่าวจากโซนตกชั้น 6 คะแนน โดยโปรแกรมเกมที่ 37 ลูกทีมของ ฟรานซิสโก้ โรดริเกวซ มีคิวออกไปเยือน เซลต้า บีโก้ ในวันที่ 15 พฤษภาคม

ไทม์ไลน์สำคัญของเกม 

  • แอตเลติโก้ มาดริด
  • 28′ | 1-0 มาเธอุส คุนญ่า (ยิง) | เรนาน โลดี้ (แอสซิสต์)
  • มาเธอุส คุนญ่า ยิงประตูที่ 6 ในลาลีก้า จากการลงสนาม 27 นัดในซีซั่นนี้ (ตัวจริง 7 สำรอง 20)
  • 62′ | 2-0 โรดรีโก้ เดอ ปอล (ยิง) | อองตวน กรีซมันส์ (แอสซิสต์)
  • โรดรีโก้ เดอ ปอล ยิงประตูที่ 2 ในลาลีก้า จากการลงสนาม 34 นัดในซีซั่นนี้ (ตัวจริง 22 สำรอง 12)
  • ใบเหลือง : เรนาน โลดี้ (35′) , เจฟฟรี่ ก็องดอกเบีย (90+2′)
  • เปลี่ยนตัว : เรนาน โลดี้ แทน ซิเม เวอร์ซัลโก้ (7′) , เอคเตอร์ เอร์เรร่า แทน อองตวน กรีซมันน์  (72′) , อังเคล คอเรอา แทน โรดรีโก้ เดอ ปอล (72′) , เฟลิเป้ แทน ยานนิค คาราสโก้ (80′) , หลุยส์ ซัวเรซ แทน มาเธอุส คุนญ่า (80′)
  • เอลเช่
  • ใบเหลือง : เปเร่ มิญ่า (7′) , เปโดร บีกาส (40′) 
แอตเลติโก้ มาดริด

เปลี่ยนตัว : กีโด้ คาริลโล่ แทน ลูคัส โบเย่ (58′) , เช็คผลบอล โฆซาน แทน เตเต้ มอเรนเต้ (58′) , กีเก้ เปเรซ แทน ฟีเดล (58′) , ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ แทน เปเร่ มีญ่า (69′) , ราอูล กูตี แทน โอมาร์ มาสคาเรล (75′)