เบิร์นลีย์

สเปอร์ ชนะ เบิร์นลีย์ 1-0 ยึดท็อปโฟร์

“ไก่เดือยทอง” สเปอร์ ทีมอันดับ 5 เปิดสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม พร้อมด้วยแฟนบอล 61,729 คน รับการมาเยือนของ “เดอคลาเร็ตส์” เบิร์นลีย์ ทีมอันดับ 17 ในฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2021/22 เกมที่ 37 

“ไก่เดือยทอง” ต้องการสามคะแนนในเกมนี้ เพื่อแซงผ่าน อาร์เซน่อล (แข่งทีหลัง) ขึ้นไปยึดอันดับที่ 4 พวกเขาเปิดเกมบุกหนักตั้งแต่ต้นเกม ทว่าโอกาสยิง 12 ครั้งในช่วง 45 นาทีแรก พวกเขายังใส่สกอร์ไม่ได้ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+7 พวกเขามาได้จุดโทษ และเป็น แฮร์รี่ เคน ที่กดไม่พลาด  ส่ง “ไก่เดือยทอง” ข่าวบอลพรุ่งนี้ ขึ้นนำจนได้ 1-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมเยือนเร่งเกมขึ้นมาเบียดอย่างสูสี “เดอะคลาเร็ตส์” เกือบจะได้ประตูตีเสมอ ทว่าลูกยิงของ แอชลีย์ บาร์นส์ ที่ อูโก้ ญอริส หมดสิทธิ์ป้องกันดันไปชนเสา สุดท้ายไม่มีฝั่งไหนได้สกอร์เพิ่ม จบเกม “ไก่เดือยทอง” เข้าวินแบบหวุดหวิด 1-0

สเปอร์

สเปอร์ ยึดที่ 4 เบิร์นลีย์ ลุ้นอยู่รอดนัดสุดท้าย

หลังผ่านเกมที่ 37 สเปอร์เก็บเพิ่มเป็น 68 คะแนน ขยับขึ้นไปยึดอันดับที่ 4 ของตาราง และ อาร์เซน่อล ซึ่งแข่งตามหลัง บุกไปแพ้ นิวคาสเซิล 0-2 ส่งผลให้ “ไก่เดือยทอง” ยึดที่ 4 และเป็นฝ่ายนำ 2 คะแนน จากการลงสนามเท่ากัน โดยโปรแกรมเกมที่ 38 (นัดสุดท้าย) ลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ มีคิวออกไปเยือน นอริช ซิตี้ ในวันที่ 22 พฤษภาคม

ทางฝั่ง เบิร์นลีย์ หลังผ่าน 37 นัด พวกเขามี 35 คะแนนเท่าเดิม จอดป้ายที่อันดับ 17 ซึ่งมีแต้มเท่ากับทีมในโซนตกชั้น (ลีดส์ฯ) พอดิบพอดี โดยโปรแกรมเกมที่ 38 ลูกทีมของ ไมเคิล แจ็คสัน มีคิวเปิดบ้านรับมือ นิวคาสเซิล ในวันที่ 22 พฤษภาคม

ไทม์ไลน์สำคัญของเกม

  • สเปอร์
  • 45+7′ | 1-0 แฮร์รี่ เคน (จุดโทษ)
  • แฮร์รี่ เคน ยิงประตูที่ 16 ในพรีเมียร์ลีก จากการลงสนาม 36 นัดในซีซั่นนี้ (ตัวจริง 35 สำรอง 1)
  • ใบเหลือง : ลูคัส มูร่า (49′) , อูโก้ ญอริส (86′) , เดยัน คูลูเซฟสกี้ (90+3′)
  • เปลี่ยนตัว : เดยัน คูลูเซฟสกี้ แทน ลูคัส มูร่า (79′) , โจ รอนดอน แทน เอเมอร์สัน รอยัล (90′)
  • เบิร์นลีย์
  • 61′ แอชลีย์ บาร์นส์ ยิงชนเสา
  • ใบเหลือง : คอเนอร์ โรเบิร์ต (27′) , นิค โป๊ป (45+7′)
  • เปลี่ยนตัว : อารอน เลนน่อน แทน แมทธิว โลวตั้น (78′) , วูต เว็กฮอร์ส แทน แอชลีย์ บาร์นส์ (78′)
สเปอร์

สถิติหลังเกมสเปอร์ ครองบอล 68.3% (เบิร์นลีย์ 31.7%) | จ่ายบอล 647:299 ครั้ง | จ่ายบอลสำเร็จ 568:221 ครั้ง | โอกาสยิง 21:8 ครั้ง | ยิงชนเสา-คาน 0:1 ครั้ง | ยิงเข้ากรอบ 8:1 ครั้ง | เลี้ยงผ่าน 9:3 ครั้ง | ชนะลูกกลางอากาศ 24:21 ครั้ง | ปะทะชนะ 9:17 ครั้ง | เตะมุม 8:2 ครั้ง | เคลียร์บอล 16:25 ครั้ง | ตัดบอล 4:8 ครั้ง | ฟาล์ว 12:8 ครั้ง | ล้ำหน้า 1:2 ครั้ง

นิวคาสเซิ่ล

นิวคาสเซิ่ล เล็งสอย “เฮนเดอร์สัน” นายด่าน แมนยูฯ เสริมทัพซัมเมอร์นี้

นิวคาสเซิ่ล สโมสรเศรษฐีใหม่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกรายงานว่า กำลังวางแผนดึงตัว “ดีน เฮนเดอร์สัน” (Dean Henderson) นายด่านตัวสำรองของทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังนายทวารชาวอังกฤษแสดงท่าทีไม่พอใจที่แทบไม่ได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาให้ต้นสังกัดตลอดทั้งซีซันที่ผ่านมา จนมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง โดย “ฟาบริซิโอ โรมาโน่” นักข่าวความน่าเชื่อถือสูงชาวอิตาเลียน ออกมาคอนเฟิร์มว่า เฮนเดอร์สัน คือ 1 ใน 3 ตัวเลือกที่ “สาลิกาดง” หมายตาเอาไว้

นิวคาสเซิ่ล

นิวคาสเซิ่ล เล็งผู้รักษาประตูอยู่ 3 คน โดยมี “เฮนเดอร์สัน” เป็นหนึ่งในนั้น

“ฟาบริซิโอ โรมาโน่” นักข่าวชื่อก้องชาวอิตาเลียน ออกมายืนยันว่า “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล มีแผนที่จะเสริมผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูในตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีชื่อของ “ดีน เฮนเดอร์สัน” ผลบอลพรุ่งนี้ นายด่านมือสอง วัย 25 ปี ของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรคู่แข่งแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่พวกเขาให้ความสนใจ เนื่องจากตลอดทั้งซีซันที่ผ่านมา เฮนเดอร์สัน ตกเป็นเพียงมือสองรองจาก

นิวคาสเซิ่ล

“ดาบิด เด เคอา” นายทวารจอมหนิบชาวสแปนิช ทำให้เพิ่งได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาให้ต้นสังกัดในซีซันนี้เพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น จนมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง “เดอะ แม็กพายส์” ก็หวังจะใช้จุดนี้เกลี้ยกล่อมให้มือกาวทีมชาติอังกฤษยอมย้ายมาเฝ้าเสาในถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค หลังจบฤดูกาลนี้

ทั้งนี้ เป็นที่เข้าใจกันว่า นิวคาสเซิ่ลที่ปัจจุบันรั้งอยู่อันดับ 14 ของตารางคะแนน ไม่ค่อยพอใจผลงานของนายด่านมือ 1 อย่าง “มาร์ติน ดูบราฟกา” ที่เข้าวัย 33 ปี และกำลังมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามารับหน้าที่แทน  ซึ่ง ดีน เฮนเดอร์สัน ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทั้งเรื่องอายุและประสบการณ์บนเวที พรีเมียร์ลีก สำหรับ ดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 29 นัด เก็บได้ 13 คลีนชีต รวมทุกรายการ

เปาโล ดีบาล่า

เปาโล ดีบาล่า ปฏิเสธสัญญา ยูเวนตุส เผยแล้วอยากร่วมทีมไหนมากที่สุด

เปาโล ดีบาล่า นักเตะตัวเก่งชาวอาร์เจนไตน์ ของยูเวนตุส ปฏิเสธต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรต้นสังกัด หลังจากข้อตกลงไม่เป็นไปตามที่คาด และจะหมดสัญญากับต้นสังกัดในช่วงซัมเมอร์นี้ พร้อมพร้อมย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว มีทีมในพรีเมียร์ลีกให้ความสนใจหลายทีม ได้เจ้าตัวยังเปิดเผยทีมที่อยากย้ายร่วมเล่นด้วยมากที่สุด 

เปาโล ดีบาล่า

เปาโล ดีบาล่า ไม่ต่อสัญญากับ ยูเวนตุส ต้องย้ายออกจากสโมสรแบบไร้ค่าตัว

หลังจากการตกลงเจรจาเพื่อต่อสัญญาของ เปาโล ดีบาล่ากับทางต้นสังกัดยูเวนตุส แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถที่จะตกลงสัญญากันได้ทำให้นักเตะรายนี้ต้องย้ายออกจากสโมสรแบบไร้ค่าตัว ในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่ามีหลายทีมที่ต้องการจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับนักเตะชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ ผลบอลพรุ่งนี้ โดยเฉพาะทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษไม่ว่าจะเป็น เชลซี ลิเวอร์พูล สเปอร์ส รวมไปถึง แมนยู ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ให้ความสนใจคว้าตัวนักเตะรายนี้มาร่วมทัพให้ได้

สาเหตุที่ทางยูเวนตุสไม่สามารถที่จะเป็นต่อสัญญากับ ดีบาล่า ได้นั้นก็เนื่องจากว่าทางยูเวนตุสได้เคยมีการพูดคุยว่าจะเพิ่มรายได้จาก 11 ล้านยูโรต่อปีแต่เมื่อกลับมาต่อสัญญาจริงลดเหลือเพียงแค่ 7 ล้านยูโรต่อปีจึงทำให้เจ้าตัวนั้นไม่พอใจและไม่ตกลงต่อสัญญา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากยูเวนตุ ขาดกองหน้ารายนี้จะส่งผลต่อทีมอย่างแน่นอน  แต่ทั้งนี้เปาโล ดีบาล่า ยังไม่ได้ตกลงสัญญาร่วมทีมกับทีมไหนแต่ก็มีทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมให้ความสนใจพร้อมเสนอค่าเหนื่อยให้เป็นจำนวนมหาศาลตามที่เจ้าตัวต้องการ

เปาโล ดีบาล่า

แต่สำหรับนักเตะรายนี้เคยได้มีการกล่าวไว้ว่า เจ้าตัวเคยมีหวังที่จะย้ายร่วมทีม แมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือ ทีมบาร์เซโลน่า เพราะในช่วงเวลาพักผ่อนจะมาเข้าเล่นเกม playstation และมักเลือกเล่น 2 ทีมนี้อยู่เป็นประจำและหวังว่าวันใดวันหนึ่งต้องได้ย้ายร่วมทีมกับทีมใดทีมหนึ่ง ถึงแม้สองทีมนี้ยังไม่มีการให้ความสนใจกับนักเตะรายนี้ แต่ก็ต้องรอติดตามไปถึงเสมอว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่

เจ ชนาธิป

รอดหรือร่วง เจ ชนาธิป ประเดิมฟรอนทาเล่นัดแรก

หากจะพูดถึงข่าวนักฟุตบอลไทยที่กำลังเป็นกระแสมากที่สุดในขณะนี้คงจะไม่มีใครเกิน เจ ชนาธิป เนื่องจากล่าสุดสื่อเจลีกญี่ปุ่นได้มีการตีข่าวเรื่องการ้ายตัวของเจที่เข้าร่วมแข่งขันกับทีมใหม่เป็นนัดแรก ตั่งไม่สามารถสร้างผลงานได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ทั้งสื่อและแฟนบอลเกิดคำถามเรื่องความคุ้มค่าของการท่ทีม คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ ยอมทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อแลกตัวเข้ามาจะคุ้มค่าจริงหรือไม่

เจ ชนาธิป

ผลงานในอดีต เจ ชนาธิป คือตัวชี้วัดที่แท้จริงหรือไม่?

ต้องบอกตั้งแต่วินาทีแรกที่ เจ ชนาธิปก้าวเท้าเข้าสู่เวทีเจลีกกับทีมคอนซาโดเรซัปโปโร เจ้าตัวก็กลายเป็นที่จับตามองของทั้งแฟนบอลไทยและแฟนบอลญี่ปุ่นทันที ข่าวบอลพรุ่งนี้ เจ้าตัวใช้เวลาอยู่นานกว่าจะสามารถแสดงความสามารถออกมาให้เห้นได้อย่างแท้จริง จนกระทั้งความสามารถของเขามาถึงทางตันกับทีมเก่าที่แฟนบอลและสำนักข่าวฟุตบอลต่างเชื่อกันว่าเขามีขีดความสามารถที่มากกว่านั้น

ทำให้สโมสรอย่าง คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ เล็งเห็นที่จะนำตัวเขามาทดแทนกับผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกันที่เพิ่งย้ายไม่ค้าแข้งที่ยุโรป ด้วยทักษะและสไตล์การเล่นที่ใกล้เคียงกันทำให้แฟนบอลต่างเชื่อว่าเขาจะสามารถเข้ามาทดแทนตัวเก่าได้ ทว่า จากเกมนัดแรกในเปิดฤดูกาลเจลีก เจ้าตัวกลับไม่ได้แสดงความสามารถออกมาเท่าที่ควร ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 60 ซึ่งแน่นอนว่าตลอดทั้งเกมเจ้าตัวสร้างโอกาสการทำประตูด้วยลูกแทงทะลุช่องสวยๆได้เพีง 3 ครั้งเท่านั้น

เจ ชนาธิป

และก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูหรือจบการยิงได้เลย ทุกครั้งที่ชนาธิปได้บอลมักจะติดนิสัยจากทีมเก่าคือการแปะคืนหลังจนเป้นที่น่าหงุดหงิดของแฟนบอล ซึ่งเมื่อเปลี่ยนตัวเพียงเวลาแค่ไม่กี่นาทีทีมก็สามารถทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จและเก็บสามแต้มแรกของฤดูกาลไปได้

คะแนนนัด เจ ชนาธิป นัดพบ เอฟซีโตเกียว

การแข่งขันครั้งนั้น สื่อข่าวฟุตบอล ญี่ปุ่นตัดเกรดของเจ ชนาธิป อยู่ที่ 5.5 คะแนน แม้ว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่คำถามคือจะดีพอยึดตำแหน่งตัวจริงหรือไม่ เนื่องจากเจลีกมากมายไปด้วยผู้เล่นเกรดดี หากไม่สามารถสร้างความโดดเด่นได้ก็จะถูกเบียดตำแหน่งในทันที อีกทั้ง คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ ยังเป็นทีมที่พร้อมทุ่ม ซื้อ หรือ ขาย ตลอดเวลา 

เบลเยี่ยม

เบลเยี่ยม กดฟินแลนด์เบาๆ 2-0 ชนะ 3 นัดรวด ฟุตบอล ยูโร 2020

รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B นัดที่ 3 : สนาม เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม นาที 16 : บอลทุ่มของฝั่งฟินแลนด์ แต่ทาง เบลเยี่ยม ตัดบอลได้ บอลจ่ายไปที่ เควิน เดอบรอยน์ ที่กลางสนาม ก่อนที่เขาจะจ่ายทะลุช่องให้ โรเมลู ลูคากู หลุดเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าย แล้วได้ซัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลพุ่งผ่านมือ ราเด็คกี้ ผ่านเสาไกลออกหลังไปแบบได้เสียวสุดๆ

นาที 37 : เควิน เดอบรอยน์ ได้บอลเกือบๆกลางสนามเบลเยี่ยมก่อนจะตักหยอดเข้าไปในเขตโทษให้ โรเมลู ลูคากู ได้วิ่งตามไปโหม่ง ที่หน้ากรอบ 6 หลา แต่บอลไม่หนีตัว ราเด็คกี้ เท่าไหร่ จึงรับไว้ได้สบาย

เบลเยี่ยม

นาที 42 : เควิน เดอบรอยน์ รับบอลจาก อาซาร์ ข่าวบอลวันนี้ ที่บริเวณกลางสนาม ก่อนจะจ่ายเลียดยาวๆไปทางซ้าย ให้ เจเรมี่ โดกู วิ่งตามไปเก็บบอลได้ที่ข้างเขตโทษ ก่อนที่เขาจะโยกตัดเข้าในตามสูตร แล้วได้ซัดด้วยขวา ระยะ 12 หลา บอลพุ่งแรงไปที่เสาสอง แต่ยังไม่ผ่านมือ ราเด็คกี้

เบลเยี่ยม เปิดเลียดยัดไปที่เสาแรก และเป็น อาซาร์ ที่ได้วิ่งเข้ายิงที่หน้ากรอบ 6 หลา แต่โดนไม่ดี

นาที 52 : เอเดน อาซาร์ ได้บอลข้างเขตโทษด้านขวา ก่อนจะโยกตัดเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย แล้วยิงหักข้อด้วยซ้าย กะให้เข้าเสาแรก แต่บอลหลุดเสาออกไป อัพเดทข่าวบอล ได้ที่นี่ทุกวัน

นาที 58 : เบลเยี่ยได้เตะมุมทางฝั่งขวา เดอบรอยน์ เปิดเลียดยัดไปที่เสาแรก และเป็น อาซาร์ ที่ได้วิ่งเข้ายิงที่หน้ากรอบ 6 หลา แต่โดนไม่ดี บอลเข้ามือ ราเด็คกี้ ที่ยืนถูกที่ถูกทางอีกครั้ง

นาที 65 : เบลเยี่ยมตัดบอลได้จากจังหวะบุกของฟินแลนด์ ทรอสซาร์ พาบอลขึ้นหน้ามาเอง แล้วไหลต่อให้ เดอบรอยน์ ที่จ่ายทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ ลูคากู ได้หลุดไปซัดที่หน้ากรอบ 6 หลา เข้าประตูไม่เหลือ แต่จังหวะนี้ เป็นลูกล้ำหน้า สกอร์ยัง 0-0

นาที 74 : เบลเยี่ยมได้เตะมุมทางซ้าย เดอบรอยน์ เปิดโค้งๆเข้ามาหน้าประตู และเป็น โทมัส แฟร์มาเล่น ที่ได้โหม่งกดลงพื้น บนตกพื้นแล้วไปชนเสา ก่อนจะกระดอนมาชนตัว ราเด็คกี้ เข้าประตูไป ส่งเบลเยี่ยมออกนำจนได้ 1-0

เบลเยี่ยม

นาที 81 : เบลเยี่ยมได้จังหวะสวนกลับ แต่ไม้ค่อยเร่งเกมเท่าไหร่ บอลถูกจ่ายไปเรื่อยๆจนไปถึงหน้าเขตโทษ ก่อนที่ เควิน เดอบรอยน์ จะจ่ายยัดเข้าไปในเขตโทษให้ โรเมลู ลูคากู ตรงจุดโทษพอดี ลูคากู ที่หันหลังให้ประตู แตะบอลด้วยซ้าย แล้วพลิกยิงด้วยขวา

ส่งบอลตุงตาข่าย ชนิดที่ ราเด็คกี้ ได้แต่ยืนมอง ส่งเบลเยี่ยม ขยับหนี 2-0 จบเกม 90 นาที เบลเยี่ยม ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 เก็บสามคะแนนเต็ม ทำให้พวกเขามี 9 คะแนนเต็ม เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม B ส่วนทาง ฟินแลนด์ มี 3 คะแนน จาก 3 นัด ได้อันดับที่ 3 ของกลุ่ม

ติดตามข่าวบอลออนไลน์ได้ที่เว็บเรา เว็บข่าวฟุตบอลวันพรุ่งนี้ ข่าวฟุตบอลอังกฤษ ที่มีให้คุณอัพเดทได้ทุกวัน วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม จัดหนักได้เลย เล่นพนันบอลได้อย่างมีเงิน แบบสร้างรายได้จากรายได้เสริมเป็นรายได้หลักในยุคโควิท ไม่ต้องออกไปไหนก็ทำเงินได้

ปีศาจแดง

ไม่เป่าได้ไง! เปาดังชี้ ปีศาจแดง ควรได้ลูกจุดโทษเกมเจ๊า “เชลซี”

ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งศึพ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชวดได้ลูกจุดโทษในจังหวะเจ้าปัญหาที่ “คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย” ปีกตัวเก่งของ เชลซี ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ เกมที่ทั้งคู่เสมอกันไป 0 – 0 ในศึก พรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยล่าสุด อดีตผู้ตัดสินดังของอังกฤษออกมาชี้ว่า จังหวะดังกล่าว ทีมปีศาจแดงสมควรได้ลูกจุดโทษอย่างไม่ต้องสงสัย!

“มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก” อดีตผู้ตัดสินชื่อดังของศึก พรีเมียร์ลีก ออกมาแสดงความเห็นว่า ทีมปีศาจแดงสมควรได้ลูกจุดโทษในจังหวะที่ “ฮัดสัน โอดอย” กองหน้าตัวเก่งของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ เกมที่ทั้งสองทีมเสมอกันไปแบบไม่มีสกอร์ 0 – 0 ในศึก พรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ปีศาจแดง

ปีศาจแดง เสมอ เซลซี 0 – 0 ทั้งสองนัดในฤดูกาลนี้ กล่าวหลังเกมว่า ทีมของตนสมควรได้ลูกจุดโทษ เช่นเดียวกับ มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก

โดยในเกมดังกล่าว ประเด็นดราม่าเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรก เมื่อ ฮัดสัน โอดอย เบียดแย่งบอลกับ “เมสัน กรีนวู้ด” ก่อนที่เจ้าตัวเหมือนจะใช้มือแต่งบอลในกรอบเขตโทษตัวเอง ซึ่งในตอนแรก “สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์” เชิ๊ตดำในเกมนี้ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ก่อนที่จะมีการย้อนดูภาพ VAR ภายหลัง แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันคำตัดสินเดิมที่ไม่ให้ลูกจุดโทษกับปีศาจแดงเนื่องจากมองว่า โอดอย ไม่ได้มีเจตนาใช้มือแต่งบอล แต่ถูกกระแทกจาก กรีนวู้ด มากกว่า

ปีศาจแดง ข่าวบอลออนไลน์

อย่างไรก็ตาม จังหวะดังกล่าวได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในช่วงหลังเกม โดย “โอเล่ กุนนาร์ โซลชา” กุนซือของทีม ปีศาจแดงได้ออกมากล่าวหลังเกมว่า ทีมของตนสมควรได้ลูกจุดโทษ เช่นเดียวกับ มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก ที่ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า “แขนของ โอดอย ยกขึ้นมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แถมมือยังโดนลูกบอลด้วย  คริส คาวาร์นาฟ ผู้ตัดสินในห้อง VAR จึงคิดว่า สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์ พลาดในจังหวะนี้ที่ไม่ได้เป่าเป็นลูกจุดโทษ เขาจึงให้ แอ็ตต์เวลล์ ย้อนดูจังหวะนั้นที่จอข้างสนามเพื่อจะได้ตัดสินใจใหมอีกครั้ง แต่เขากลับไม่ให้จุดโทษ ทั้ง ๆ ที่เห็นภาพมุมเดียวกับเรา มันแปลกมาก ๆ”

พบกับ ข่าวฟุตบอลอังกฤษ ข่าวโยกย้ายนักเตะ ข่าวบอลออนไลน์ ที่ให้คุณได้มากกว่าใคร เพราะเราคือเว็บข่าวบอลและพนันอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่พร้อมให้คุณได้ติดตามกันแล้วที่นี่ที่เดียว เว็บสล็อตยอดนิยม

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 13 แมนซิตี้ เหนือกว่าทุกด้านแต่ได้แค่เจ๊า เวสต์บรอมวิช 1-1

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 13 ของฤดูกาล ในค่ำคืนวันอังคาร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผลงานในช่วงหลังค่อนข้างดีกับการเจอทีมท้ายตาราง ซึ่งวันน็เช่นกันกับการเปิดบ้านรับ เวสต์บรอมวิช ทีมรองบ๊วยของตาราง สำหรับผังการเล่นเจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 เหมือนเคย ส่วนทีมเยือนยึดผัง 4-5-1 มารับมือ 

เริ่มเกมขึ้นมา แมนซิตี้ ครองบอลพร้อมบุกใส่ตามคาดศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษแต่การฝ่าแนวกั้น 2 ชั้นลำบากเหลือเกิน จนทำให้ช่วง 20 นาทีแรก แม้จะครองบอลมากกว่าถึง 70% แต่ก็ไม่อาจสร้างจังหวะหวาดเสียวได้ มิหนำซ้ำการโต้กลับของเวสต์บรอมวิชยังน่ากลัวจนเกือบได้ประตูนำ

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ข่าวบอลออนไลน์

การขึงเกมบุกของแมนซิตี้มาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 30 ซึ่งการตั้งโซนรับลึกที่กินเวลายาวนาน ทำให้เกิดความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการประกบตัวแถว 2 จากลูกเปิดหลังประตูของสเตอร์ริ่ง ทำให้กุนโดกัน ที่ยืนรออยู่ได้ซัดหน้าปากประตูจนขึ้นนำ 1-0 ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังคงบุกต่อแต่ไม่ค่อยเน้นมากเท่าใด 

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ บทสรุปจากเกม แนวรุกของแมนซิตี้ พึ่งพา เดอ บรอนย์กับสเตอร์ริ่ง จนแนวรุกขาดสมดุล

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษจังหวะประตูตีเสมอ 1-1 อาจกล่าวได้ว่าเป็นจังหวะฟุตบอลมากว่า เพราะกระเด้งไปแฉลบแนวรับแมนซิตี้ก่อนแล้วเข้าประตู แต่ถึงระนั้นแม้บอลจะแฉลบแต่เอเดซอนยังไม่หลงทิศ อีกทั้งภาพหลังประตูยังเป็นหลักฐานสำคัญว่าว่าเจ้าตัวเห็นทิศทางบอลลูกบอลชัดเจนที่พอจะมีเวลาเสี้ยววินาทีกลับตัวมาเซฟ

แต่นายด่านชาวบราซิลผู้นี้ไม่ขยับเท้า ทำให้ระเบียบร่างกายไม่พร้อมที่ควักบอลออกมาได้ ซึ่งการตีเสมอในช่วงเวลาแบบนี้ทำให้สามารถกลับไปตั้งเกมรับลึกแบบเดิมได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าโอกาสที่จะรอดได้นั้นค่อนข้างน้อย หากดูจากสถิติประกอบ

ในครึ่งหลังอาจเรียกได้ว่าแมนซิตี้ปูพรหมบุกใส่ข้างเดียวด้วยสารพัดวิธี ตั้งแต่การเซตบอลไปมาแล้วเปิด การลากพาบอลไปริมเส้นเพื่อให้แนวรับทีมเวสต์บรอมวิชถอยต่ำ เพื่อให้ตัวแถว 2 ที่ยืนรออยู่ในกรอบเขตโทษมีพื้นที่ว่าง ตลอดจนลูกเตะมุม แต่กองหลังกับผู้รักษาประตูของทีมเยือนยังช่วยกันสกัดและเซฟไว้ได้ทั้งหมด 

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ข่าวบอลวันนี้

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษบทสรุปจากเกม แนวรุกของแมนซิตี้ พึ่งพา เดอ บรอนย์กับสเตอร์ริ่ง จนแนวรุกขาดสมดุล อีกทั้งไม่มีแท็กติกที่จะนำมาแก้ลำกับทีมที่มาตั้งรถบัสใส่ ขณะที่เวสต์บรอมวิช การได้แต้มในวันนี้ถือว่าหืดจับ เพราะเลือกเล่นตั้งรับลึก แม้จะโดนยิงไป 1 ประตู แต่ก็ได้ความโชคดีจากจังหวะฟุตบอลทำให้มีแต้มกลับบ้าน          

สนุกครบทุกเรื่องเด่น ประเด็นดังวงการฟุตบอล ข่าวบอลอังกฤษ ข่าวโยกย้ายนักเตะ พร้อมลุ้น ผลฟุตบอลวันพรุ่งนี้ ให้คุณได้รับชมก่อนใคร และถ้าย้งไม่พอเราก็ยังมีที่เล่นพนันบอลออนไลน์ให้คุณได้เล่นกัน ที่นี่เลย SA Gaming 1688

แอร์เบ ไลป์ซิก

แอร์เบ ไลป์ซิก สุดแกร่งเฉือนผีแดงสุดมันส์

แอร์เบ ไลป์ซิก จากเยอรมนีโชว์ฟอร์มสุดยอดเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษไปแบบสุดมันส์ด้วยสกอร์ 3 – 2 พร้อมตบเท้าผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปิยนส์ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2563 แถมยังเป็นการเขี่ยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบแรกอย่างเจ็บแสบแต่ยังดีที่ “ปีศาจแดง” จะได้กลับมาเล่นถ้วย ยูโรป้า ลีก ต่อไป 

แอร์เบ ไลป์ซิก

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายเมื่อคืนวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาแอร์เบ ไลป์ซิกเปิดสนนาม “เร้ดบูลล์ อารีน่า” รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเกมนี้แอร์เบ ไลป์ซิกต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ เริ่มเกมมาแค่ 2 นาทีแอร์เบ ไลป์ซิกออกนำอย่างรวดเร็วจากการยิงของ อังเคลลิโน่ 

แอร์เบ ไลป์ซิก เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 3 – 2 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นผลสำเร็จ

จากนั้นในนาทีที่ 13แอร์เบ ไลป์ซิกหนีห่างเป็น 2 – 0 จากจังหวะที่ อังเคลลิโน่ เปิดบอลข้ามมาถึงฝั่งขวาและเป็น อมาดู ไฮอาร่า แปด้วยขวาผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปอย่างเหนือชั้น ก่อนที่จะจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้ 

ครึ่งหลังเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มดีขึ้นและบุกใส่เจ้าบ้านเพื่อทวงประตูตีไข่แตก แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถเจาะตาข่ายของแอร์เบ ไลป์ซิกได้ เท่านั้นยังไม่พอในนาที 68 กลายเป็นแอร์เบ ไลป์ซิกที่นำห่างไปเป็น 3 – 0 จากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ จัสติน ไคลเวิร์ต ทำให้โอกาสเข้ารอบของแอร์เบ ไลป์ซิกสดใสขึ้นมาทันที 

แอร์เบ ไลป์ซิก ข่าวบอลออนไลน์

อย่างไรก็ตามในนาที 80 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ยอมง่ายๆ ไล่มาเป็น 3 – 1 จากการยิงจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นานเดซ เท่านั้นยังไม่พอในอีก 2 นาทีถัดมา “ปีศาจแดง” ได้ประตูไล่มาเป็น 3 – 2 จากการโหม่งของ ปอล ป็อกบา จากนั้นเจ้าบ้านแอร์เบ ไลป์ซิกดูเหมือนจะตั้งเกมไม่ติดแต่สุดท้ายยังเอาตัวรอดมาได้ 

จบ 90 นาทีแอร์เบ ไลป์ซิกเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 3 – 2 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นผลสำเร็จ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้อันดับ 3 ของกลุ่ม ต้องหล่นไปเล่นฟุตบอล ยูโรป้า ลีก แทน 

ติดตามข่าวฟุตบอลอังกฤษข่าวฟุตบอลวันพรุ่งนี้ ที่เว็บเรามีให้ติดตามอยู่ตลอดเวลา

ชาลเก้

ชาลเก้ สั่งเด้ง ว๊ากเนอร์ พ้นทีมเซ่นผลงานสุดห่วย 18 นัดติด

ชาลเก้ (Schalke 04) ทีมดังแห่งศึก บุนเดสลีก้า เยอรมัน ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วด้วยการจบอันดับที่ 12 ทำได้เพียง 39 คะแนน ห่างโซนตกชั้นเพียงแค่ 8 คะแนนเท่านั้น จนเริ่มฤดูกาลใหม่ในซีซัน 2020-2021 ไปแล้ว 2 นัดชาลเก้ก็ยังคงฟอร์มบู่ต่อเนื่องด้วยการแพ้รวดทั้ง 2 นัด จมอยู่อันดับสุดท้ายของตารางคะแนน ทำให้ล่าสุด “ราชันสีน้ำเงิน” ต้องรีบแก้สถานการณ์ด้วยการปลด “ดาวิด ว๊ากเนอร์” เฮดโค้ชชาวเยอรมันพ้นทีมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา

ชาลเก้

ชาลเก้ สะกดคำว่า “ชนะ” ไม่เป็นตลอดช่วง 18 เกมหลังสุด

ชาลเก้ภายใต้การคุมทีมของ “ดาวิด ว๊ากเนอร์” ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังนับตั้งแต่กุนซือชาวเยอรมันเข้ารับตำแหน่งในช่วงปลายปี 2019 ชาลเก้โดย ว๊ากเนอร์ คุมทีมลงสนามไปแล้ว 40 นัด คว้าชัยชนะได้เพียง 12 เกม เสมอ 12 เสมอ และแพ้ไปถึง 16 เกม ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดช่วง 18 เกมหลังสุดชาลเก้ไม่สามารถคว้าชัยได้เลยแม้แต่เกมเดียว โดย เสมอไป 6 และแพ้ไปถึง 12 ยิงได้แค่ 8 ประตู แต่เสียไปถึง 49 ประตู  โดยเฉพาะนัดเปิดสนามฤดูกาล 2020-2021 ที่ชาลเก้บุกไปโดน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ถล่มเละเทะถึง 8-0 ก่อนจะมาเปิดบ้านพ่ายให้ แวร์เดอร์เบรเมิน คาถิ่นไป 3-1 แช่อยู่อันดับบ๊วยของตารางคะแนน จนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่บอร์ดบริหารของชาลเก้จะสั่งปลด ดาวิด ว๊ากเนอร์ เซ่นผลงานสุดห่วยตลอด 40 นัด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา โดยคาดกันว่าชาลเก้ กำลังล็อกเป้าไปที่ “ซานโดร ชวาร์ซ” กุนซือของ ไมน์ซ 05 เพื่อมารับช่วงต่อในซีซันนี้ 

ชาลเก้

ทั้งนี้ ดาวิด ว๊ากเนอร์ เคยเป็นศูนย์หน้าของชาลเก้ในช่วงปี 1995-1997 ก่อนจะผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมอย่างเต็มตัวกับ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ทีมในลีก แชมเปียนชิป ในขณะนั้น ก่อนจะพาเลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ในปี 2017 จนชาลเก้มาคว้าตัวไปคุมทัพราชันสีน้ำเงินในปี 2019