เกมไทยลีก

เกมไทยลีก วิเคราะห์ฟันธง นัดที่ 10 ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ตค 63

เกมไทยลีก คู่วันเสาร์ผ่านพ้นไปอย่างเมามันส์ แต่ในคู่วันอาทิตย์ก็ไม่ได้ดีกรีความมันส์ลงไปแม้แต่น้อย โดยโปรแกรมที่จะลงเตะมีทั้งหมด 4 คู่ 4 สนาม 2 ช่วงเวลา ซึ่งมีทีมใหญ่หัวตารางต้องตัดแต้มกันเอง 2 คู่ และเป็นเกมประเดิมโค้ชใหม่ 2 ทีม 

เกมไทยลีกช่วงเวลา 18.00 น. คู่แรก สุโขทัย เอฟซี เปิดทะเลหลวงสเตเดี้ยมรับจ่าฝูง บีจีปทุม ยูไนเต็ด สำหรับฝั่งเจ้าบ้านผลงานดีอย่างต่อเนื่อง โดยนัดล่าสุดบุกไปชนะบียู 4-5 ร้อนถึงมาโน่ต้องกระเด็นจากเก้าอี้ ส่วนบีจีปทุม พึ่งสดุดเสมอในบ้านกับสมุทรปราการ 2-2 เกมนี้เชื่อว่าเจ้าบ้านจะรัดกุมแล้วใช้ทีเด็ดจากคู่กองหน้าต่างชาติ ส่วนทีมเยือนจะนำยักษ์ 3 ตน มาวางขวางประตู และเล่นงานทีมตรงข้ามด้วยลูกตั้งเตะเหมือนเคย จึงฟันธงว่าบีจีปทุมไม่แพ้

 

เกมไทยลีก

เกมไทยลีก คู่เวลา 19.00 น. ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านรับ สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด เจ้าบ้านพึ่งออกไปเจ๊าจืดกับสุพรรณบุรีมา 0-0

ข่าวฟุตบอลไทยลีก ส่วนอีกคู่ในเวลา 18.00 น. ตราด เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เริ่มที่เจ้าถิ่นตราด ฟอร์มแรงขึ้นมา 2 นัด เก็บได้ 6 แต้ม แต่กว่าจะได้มานั้นต้องลุ้นระทึกเลยทีเดียว ขณะที่ทีมเยือน บุรีรัมย์ แพ้มาสองนัดติดจนทีมรูดไปอยู่กลางตาราง สุดท้ายต้องเปลี่ยนแปลงกุนซือ โดยดึงกาม่าเข้ามาแทน เกมนี้เชื่อว่าตราดที่แนวรับมักมีอาการแกว่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถต้านทานทีมเยือนได้ แต่ทั้งนี้ต้องดูฝั่งบุรีรัมย์ด้วยว่า เปลี่ยนโค้ชแล้วจะดีขึ้นหรือไม่อย่างไร จึงขอฟันธงไว้ก่อนว่า บุรีรัมย์ไม่แพ้ 

เกมไทยลีกขยับมาที่คู่ในเวลา 19.00 น. ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านรับ สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด เจ้าบ้านพึ่งออกไปเจ๊าจืดกับสุพรรณบุรีมา 0-0 ส่วนทีมเยือนพึ่งเฉือนชนะราชบุรี แบบสุดดราม่า 2-1 เกมนี้มองว่าทีมเยือนที่ฟอร์มร้อนแรงจะมาโขยกเจ้าถิ่นที่ดูเหมือนว่าฤดูกาลนี้จะเน้นวิธีการเล่นที่รัดกุมกว่าเดิม จึงขอฟันธงว่ามีสิทธิ์ออกเสมอ แต่หากมีผู้ชนะให้ฝั่งทีมเยือน 

เกมไทยลีก

ส่วนคู่สุดท้ายประจำสัปดาห์เวลา 19.00 น. โปลิศ เทโร เอฟซี เปิดบ้านรับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้านเจ้าบ้านพึ่งออกไปคว้าแต้มจากสามอ่าวสเตเดี้ยมในวินาทีสุดท้ายของเกม ทำให้มีคะแนนเกาะกลุ่มกลางตารางไว้ได้ ส่วนทีมเยือนพึ่งแพ้ตราด คาบ้านมา 0-1 พร้อมกับการลาออกของกาม่า ก่อนจะแต่งตั้งอดีตผู้เล่นของทีมอย่าง มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ เข้ามาคุมทีม เกมนี้มองลำบากเนื่องจากยังไม่เคยเห็นฟอร์มของโค้ชโอ้มาก่อน แต่ในเมื่อต้องฟันธง ก็ต้องขอใช้วิธีคาดคะเนว่า เมืองทองไม่แพ้  

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วิเคราะห์เกมไทยลีกนัดที่ 9 บุรีรัมย์ พ่าย นครราชสีมา คาบ้าน 1-2

เกมไทยลีกนัดวันอาทิตย์ มีเกมพลิกล็อคอยู่ถึงสองคู่ โดยหนึ่งในนั้นคือเกมการแข่งขันระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมท้ายตาราง ที่มีสถิติการมาเยือนถิ่นปราสาทสายฟ้าไม่ค่อยสู้ดีนัก มีแค่แพ้กับเสมอ ไม่เคยชนะ แต่สุดท้ายเกมดังกล่าวก็เป็นการปลดล็อคชัยชนะนัดแรกของสวาทแคท ที่ยัดเหยียดความพ่ายแพ้คาถิ่นแก่บุรีรัมย์ 1-2 พร้อมส่งโบซิดาร์ บันโดวิช ให้กลายเป็นเพียงอดีตกุนซือของบุรีรัมย์

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รูปแบบการเข้าทำที่ไม่หลากหลาย โดยเฉพาะมิติเกมรุกบริเวณกลางสนามจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ

สำหรับเกมการแข่งขันฟุตบอลไทย บุรีรัมย์ครองเกมไว้ได้ตามคาดตั้งแต่ต้นเกม และบุกกดดันเข้าใส่ทีมเยือน แต่ปัญหาเดิม ๆ ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั่นคือรูปแบบการเข้าทำที่ไม่หลากหลาย โดยเฉพาะมิติเกมรุกบริเวณกลางสนามจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ ซึ่งจะเห็นได้ว่าแนวรุกต่างชาติอย่างทีดี คานยุค ของบุรีรัมย์ไม่สามารถเชื่อมและจ่ายบอลในพื้นที่อันตรายได้ โดยบทบาทที่เห็นมักจะเป็นตัวแถวสองเพื่อรอยิงบอลนอกรอบเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกมบุกของเจ้าบ้านต้องใช้วิธีการโยนจากริมเส้นทั้งสองข้าง รวมถึงใช้ลูกตั้งเตะฟรีคิกโจมตีใส่แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากตัวผู้เล่นของสวาทแคทถอยมาลงมายืนตั้งรับกันจนแน่น ยามใดที่เจ้าบ้านโยนบอลใส่จึงถูกเคลียร์สกัดออกไป จนอาจกล่าวได้ว่าลูกยิงเก็บตกของผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดน่าจะเป็นจังหวะที่ได้น้ำได้เนื้อกว่าการโยนยาวเสียอีก 

ศุภชัย ใจเด็ด ความมั่นใจหายไปจนหมดสิ้น แม้ว่าเขาจะมีจังหวะต่อบอลกับเพื่อนสวยๆหลายครั้ง แต่สิ่งที่เขาขาดหายไปอย่างสิ้นเชิง คือสัญชาตญาณการยิงประตูที่ไม่มีความเฉียบคมเลย อาทิ จังหวะในช่วงต้นครึ่งหลัง ที่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษของโคราช ซึ่งมีเวลาที่จะเล็งก่อนตะบันยิงได้ แต่เจ้าอารม์เลือกจะจับบอลหลายจังหวะจนสุดท้ายไม่มีมุมและต้องจ่ายออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ทีมเยือนไม่มีมิติเกมรุกอะไรเลย จังหวะเข้าทำทั้งหมดมาจากการยิงไกลที่ไม่มีผลใด ๆ ให้ผู้รักษาประตูอย่างศิวรักษ์ต้องเซฟ แต่การที่โคราชชนะเกมนี้ก็เพราะความผิดพลาดของบุรีรัมย์เอง ซึ่งประตูที่ทีมเยือนได้ทั้งสองลูกมาจากการจ่ายบอลพลาดในแดนตัวเองของบุรีรัมย์ แล้วแนวรุกทีมเยือนเข้ารุมแย่ง ก่อนจ่ายบอลให้แนวรุกต่างชาติอย่างอัสซัมพ์เซา อมาดู และเดนนิส มูรีโย่ ไปสอดประสานกันทำประตู โดยประตูทั้งสองลูกเกิดจากการจ่ายไปยังพื้นที่ว่างระหว่างกองหลังแล้วแล้วจบสกอร์ตามน้ำทันที

สิ่งที่น่าติตดามหลังจากนี้ หากกาม่ามาบุรีรัมย์จริงตามข่าว คือจะทำอย่างไรให้ทีมกลับมาได้ในสภาวะที่ตัวต่างชาติเล่นไม่ออกเลยแม้แต่คนเดียว หรืออาจต้องประคองตัวไปก่อนแล้วรอตลาดรอบเดือนมกราคม ส่วนโคราชแม้จะคว้าชัยในนัดนี้ได้ แต่ก็ยังคงต้องดิ้นรนหนีตกชั้นต่อไปเพราะคะแนนโซนท้ายตารางค่อนข้างเบียดกัน ซึ่งการแพ้เพียงนัดเดียวสามารถส่งผลให้ร่วงโซนแดงได้ทุกวินาทีเลยทีเดียว   

สโมสรฟุตบอลไทย

สโมสรฟุตบอลไทย สโมสรไหนมีสนามเป็นของตัวเอง = จริงจังต่อฟุตบอลไทย ?

สถานการณ์ฟุตบอลไทยในตอนนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่า 2-3 ฤดูกาลหลัง มี สโมสรฟุตบอลไทย ที่ถอนตัวออกจากการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมักเป็นสโมสรของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ขณะที่สโมสรที่เป็นของเอกชนดูเหมือนว่าจะค่อนข้างมั่นคงกว่าในการยืนหยัดอยู่คู่วงการฟุตบอลไทย อีกทั้งหลายทีมเลือกสร้างสนามของตัวเอง ซึ่งต้องใช้งบประมาณนับร้อยล้านบาท ทำให้วันนี้จะมาชี้ให้เห็นว่าหากสโมสรเอกชนเหล่านั้นมีสนามเหย้าเป็นของตัวเอง เท่ากับว่าเขาจริงจังกับฟุตบอลจริงหรือไม่? 

สโมสรฟุตบอลไทย

สโมสรฟุตบอลไทย เมืองทอง ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และบีจีปทุม ยูไนเต็ด นับได้ว่าเป็นทีมยุคบุกเบิกที่มีสนามเหย้าเป็นของตัวเอง

สโมสรฟุตบอลไทยเมืองทอง ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และบีจีปทุม ยูไนเต็ด นับได้ว่าเป็นทีมยุคบุกเบิกที่มีสนามเหย้าเป็นของตัวเอง โดยไม่เช่าสนามลงเตะ และยืนหยัดในวงการนี้มาตลอด แม้สองทีมดังอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ด และชลบุรี เอฟซี จะเปลี่ยนโยบายมาดันเด็กเยาวชนมากกว่าทุ่มซื้อเหมือนอดีต ซึ่งก็เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพคล่องทางการเงินของทีมให้เดินต่อไปได้ 

สโมสรฟุตบอลไทยเชียงราย ยูไนเต็ด และราชบุรี มิตรผล เอฟซี คือกลุ่มทีมยุคหลัง ที่ค่อยๆสร้างทีมและ พัฒนาทีมขึ้นมาจากลีกล่าง แม้ว่าในช่วงแรกพวกเขาต้องเช่าสนามก่อน แต่เมื่อพวกเขามีเงินทุนมากพอ พวกเขาก็เริ่มสร้างสนามเป็นของตนเอง  อีกทั้งสองทีมดังกล่าวนี้ยังพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องจากทีมท้ายตาราง จนกลายเป็นทีมกลางตาราง จนขณะนี้ที่ทั้งสองอยู่ในระดับหัวตารางลุ้นแชมป์ ซึ่งเชียงราย ยูไนเต็ด สมหวังไปก่อนแล้วเมื่อปีก่อนกับการคว้าแชมป์ไทยลีก 

สโมสรฟุตบอลไทย

นั่นจึงทำให้กล่าวได้ว่าหากสโมสรใดมีสนามเป็นของตัวเอง เท่ากับว่าพวกเขาเอาจริงเอาจังกับฟุตบอล เพราะการสร้างสนามเป็นของตัวเองต้องใช้งบประมาณอย่างมาก ซึ่งสื่อได้ว่าทีมต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแต่มีเป้าหมายในระยะยาว ที่จะสร้างทีมให้เป็นสโมสรชั้นนำของไทยตรงข้ามกับอีกหลายสโมสรที่แววจะไม่ค่อยจริงจังกับฟุตบอลมากนักหากสังเกตจากพฤติการณ์และมีครบตามที่กล่าวนี้ คือ เช่าสนามเตะ มอบสัญญาแก่นักเตะรายปี และใช้วิธีการยืมตัวจากทีมใหญ่เป็นสำคัญ ซึ่งเมื่อใดที่ต้องการถอนทีมก็สามารถทำได้ทันทีเพราะไม่มีสัญญาและพันธะใดๆ ผูกมัดข้ามฤดูกาล